[รีวิว]ร้านชาบูบ้านพ่อง

[รีวิว] ร้านชาบูบ้านพ่อง แห่งตลาดนัดรถไฟรัชดา

 

 

       สวัสดีจ้าาา เพื่อนๆทุกคนน วันนี้"ฝ้าย"จะมารีวิวร้านชาบูที่ถือว่าเป็นร้านที่ฝ้ายชอบมากๆถ้าไปตลาดนัดรถไฟรัชดาทีไรเอาเป็นว่าต้องแวะร้านนี้ทุกทีเลย ชื่อร้านนี้ชื่อว่า "ชาบูบ้านพ่อง"เอ๊ะฟังชื่อร้านอาจจะดูฮาร์ดคอไปนิสนุงแต่พนักงานที่นี้ให้บริการน่ารักมากเลย ไม่โหดตามชื่อร้านน้า ร้านนี้นอกจากจะอร่อยแล้วราคาก็เป็นมิตรอยู่นะไม่แพงมาก มีหลายเมนูให้เลือกไม่ว่าจะเป็นปิ้งย่าง หรือชาบู ชีสกระทะ อยากจะรู้ที่ตั้งของร้านและเมนูของที่นี้แล้วล่ะสิว่ามีอะไรที่น่าไปลองกันบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้าาา

 

      วิธีการเดินทาง
       ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ตลาดนัดรถไฟ รัชดา ซึ่งตลาดนัดรถไฟนี้จะอยู่ทางด้านหลังของห้างเอสพลานาด รัชดา ส่วนร้านชาบูจะเปิดให้บริการ วันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 17.00 - 00.00 น.
        BTS : ลงสถานี ศาลาแดง แล้วต่อ MRT ที่สถานีสีลม
        MRT : ลงที่สถานี ศูนย์วัฒนธรรม ออกประตูที่ 3 แล้วเดินย้อนกลับไปทางห้างเอสพลานาด รัชดา เล็กน้อย
        รถประจำทาง : สาย 73ก ปอ 528 514 517 185 137 179 206 98

 

 

 

 



 นี้ก็คือทางเข้าตลาดนัดรถไฟรัชดานั้นเองง จะเจอป้ายใหญ่ๆเลยย

 

 

 

 

เดินมาเรื่อยๆก็จะเจอหน้าร้านมีป้ายเมนูไว้รอท่านผู้กินน 

 

 

ภายในร้านก็จะมีโต๊ะนั่ง โต๊ะหนึ่งที่นั่งประมาณ 4-6คน

 

 

ร้านกว้างพอสมควรเลย แสงไฟสว่าง

 

 

         ในส่วนของเมนูนั้นมีเยอะมากกกก โดยพนักงานจะให้เราเลือกว่าเราอยากจะกินประเภทไหน แล้วก็ค่อยเลือกชุดของประเภทนั้นอีกที ชื่อเมนูแต่ละอย่างสมชื่อกะชื่อร้านมาก5555 ตอนเราไปกินครั้งแรกก็อึ้งๆกะชื่อเมนูนะแล้วก็เลือกเมนูไม่ถูกเหมือนกันแต่พี่พนักงานเขาก็บอกว่าเป็นชื่อเมนูเป็นลูกเล่นของร้าน แถมแนะนำเมนูให้ กินให้พ่องไปเลยจ้าาา

 

มีของยิบย่อยไปอีกกกกแกกก

 

 

มาที่เมนูแรกกันดีกว่าที่ถ้ามาถึงที่นี้แล้วต้องสั่งก็คืออ ชุดโครตพ่อง(319บาท) เป็นชุดชาบูที่รวมเนื้อหมูไว้ล้วนๆ ประกอบด้วยเนื้อหมูสไลด์บางๆ ตับเอย เบคอนเอย ไส้กรอกเอย แฮมเอย เนื้อหมูที่นี้คือสุดๆไปเล้ยยย

 

 

มีผัก วุ้นเส้น และก็เต้าหู้ไข่ให้ด้วยนะ ไว้ลวกกิน ใครสายเฮลตี้ก็กินแต่ผักไปละกัน สายอ้วนอย่างเราผักไม่แตะจ้า5555 อะล้อเล่งง

 

รอน้ำเดือดดดดด กลิ่นน้ำซุปฟุ้งกระจายย

 

 

 

น้ำซุปเดือดแล้ววว เอาผักลงไปเลยค่ะซิสรอไรรรเล่าาา

 

 

หมูลวกน้ำชาบู สุกแล้ววววว  สำหรับเรา เราว่าเนื้อหมูที่นี้นุ่มมาก ไม่เหนียว หมักหมูได้อร่อย ส่วนน้ำซุปก็รสชาติเข้มข้น ตับก็ไม่เหม็นคาว เบคอนสไลด์ได้บางนุ่มอร่อยมีติดมันนิดๆใช้ได้เลย เต้าหู้ไข่ นุ่มมากเวลากินตอนร้อนๆกับน้ำซุปคือละลายในปากมาก แต่ให้น้อยไปนิสนุงง ส่วนผักและวุ้นเส้นก็ให้มาพอดีกินไม่มาหรือน้อยเกินไป

 

 

มาเมนูปิ้งย่าง กันบ้างง ขอแนะนำชุดหมูกะชีส (299บาท) ในชุดนี้ก็จะมีหมูหมักซอส หมูหมักไข่ หมูหมักซอสเกาหลี ชีส ข้าวโพดแล้วก็เห็ดจ้า

 

 

หมูหมักซอสเกาหลี ไม่ค่อยนุ่มเท่าหมูหมักไข่แต่ได้กลิ่นซอสของเกาหลี ใครชอบสไตล์เกาหลีห้ามพลาด

 

 

หมูหมักไข่ ที่นี้นุ่มจิงจังงง ซอสหมักหมูเข้มข้นดี

 

ชีส ยืดและฟินมากเวลากินกับเนื้อหมู ออกรสชาติเค็มๆมันๆ

 

 

ข้าวโพดหวานมัน พอได้ย่างจะได้กลิ่นไหม้ๆหอมๆของข้าวโพด

 

 

ตอนเราไปกินแรกๆก็งงมันคือไร มารู้ทีหลังว่าเป็นไข่ไว้ทำไข่ตุ๋น55555

 

 

อีกอย่างจะขาดไม่ได้เลย ถ้าไม่มีน้ำจิ้ม ชาบูหรือปิ้งย่าง ก็หมดความหมาย เพราะน้ำจิ้มเป็นส่วนที่เติมรสชาติให้เข้มข้นมากขึ้น ที่นี้จะมีด้วยกัน3แบบ

 

 

ฝั่งทางซ้ายมือจะเป็นน้ำจิ้มปิ้งย่างเราว่ารสชาติมันเหมือนซอสกินกับขนมจีบอะ5555 ส่วนตรงกลางจะเป็นน้ำจิ้มแจ่ว รสชาติแซ่บอีหลีก็เหมือนน้ำจิ้มแจ่วทั่วๆไปที่กินกับคอหมูย่างประมาณนั้น ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นน้ำจิ้มสุกี้เราปลื้มน้ำจิ้มนี้มากรู้สึกมันมีครบทุกรสชาติเลย

 

 

พอได้กินก็จะดูบวมๆ55555555

 

 

ถึงไม่น่ารัก แต่มีแก้มให้หยิกน้าาาา อิอิ

 

 

         ก็จบไปแล้วสำหรับการรีวิวร้าน"ชาบูบ้านพ่อง"กันไปแล้ว เป็นไงบ้างเอ่ยยเมนูน่ากินม่ะ ราคาก็ไม่แพงมากแถมได้กินของอร่อยๆ ของคุณภาพดีๆนะจ้าาา บอกเลยใครที่ดูบทความนี้ตอนดึกอาจจะดูทำร้ายไปหน่อยน้าาา55555555 ร้านที่ฝ้ายมารีวิวรับรองว่าเด็ดจริง อร่อยจริง แล้วก็เรามีความประทับใจกับร้านนี้มากคือถ้าเราขาดเหลือไรเพิ่มก็สามารถเรียกได้ตลอดแล้วไวมาก ถึงลูกค้าร้านนี้จะเยอะก็ตาม คอยบริการตลอดตั้งแต่หน้าร้านยันเรากินเสร็จ มีพนักงานคนหนึ่งน่าจะเอาหลานชายวัยกำลังน่ารัก น่าจะประมาณ5-6ขวบได้อะน้องเขาก็มาเช็กบิลโต๊ะเราแล้วคราวนี้ด้วยความน่ารักของน้องอะ  เทอสายเปย์ให้ติ๊บน้องไป20บาทจ้า55555555 รักเด็กค่าาาา พนักงงานที่นี้เป็นกันเองมากๆ แนะนำให้มาลองกันได้ความจริงมีสองสาขาน้าแต่เรามาสาขาที่ตลาดนัดรถไฟรัชดา พอกินเสร็จก็ได้เดินชิลๆกันต่อ งั้นฝ้ายก็ขอตัวไปเดินเล่นช็อปเสื้อผ้าต่อที่ตลาดเลยละกันน สำหรับวันนี้บายจ้าาา

การวิเคราะห์ วิจารณ์บทความ

มาวิเคราะห์ วิจารณ์บทความกันเถอะ!

 

 

        สวัสดีค่าาา พับกบ เอ้ย พบกับ"ฝ้าย"เช่นเคยค่าา วันนี้ฝ้ายอยากจะลองเปลี่ยนทำบทความแบบที่ฝ้ายไม่เคยทำมาก่อน นั้นก็คือออ การวิเคราะห์วิจารณ์ผลงานนั่นเอง ซึ่งการวิเคราะห์วิจารณ์เนี้ยฝ้ายว่ามันไม่ผิดนะมันคือความคิดเห็นส่วนตัวของเราแล้วเราก้อยากถ่ายทอดในมุมมองของเราว่าเรามีทัศนคติเกี่ยวกับบทความนี้อย่างไรอาจจะไม่ใช่ด้านลบอย่างเดียว ด้านดีก็มีนะ เพื่อเป็นการให้เจ้าของบทความที่เราวิเคราะห์ได้นำความคิดเห็น ไปปรับปรุงพัฒนาให้ดีขึ้น มันก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเลยแหละ เอาล่ะคราวนี้ฝ้ายก้จะมาวิเคราะห์วิจารณ์บทความของคนทั้ง3คน เราจะมาดูกันว่าแต่ละคนใน3คนนี้จะมีวิธีการเขียน หรือทัศนคติมุมมองในการเขียนบทความเป็นอย่างไร ไปวิเคราะห์พร้อมๆกันเลย

 

       

         บทความแรกที่ฝ้ายจะวิเคราะห์คือบทความเรื่อง [รีวิว]วังน้ำเขียว แต่ใส ของคุณ''ฟาร์'' ซึ่งฝ้ายได้อ่านบทความของคุณฟาร์แล้วรู้สึกว่าเป็นคนที่เขียนบทความในเชิงรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวได้ดีเพราะมีการเกริ่นนำบทความโดยการเล่าเรื่องว่าตัวเองไปเที่ยวแล้วมีความรู้สึกกอย่างไร ทำให้อ่านแล้วสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในการไปเที่ยวครั้งนี้ รวมถึงข้อมูลการแนะนำสถานที่ก็ครบถ้วน มีการนำรูปสมัยเด็กๆมาประกอบ แต่ยังไงก็ตามก็อาจจะมีบางจุดที่ฝ้ายรู้สึกว่าควรจะปรับนิดนึงคือ เวลาจบบทความแล้วไม่มีการสรุปส่งท้ายให้ผู้อ่าน จบแบบอาจจะงงๆไปนิด แต่ก็เป็นข้อผิดพลาดที่ไม่ค่อยจะเป็นปัญหาเท่าไร ภาพรวมถือว่าดีเลยทีเดียว สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเต็มๆของคุณฟาร์ก็สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี้เลย วังน้ำเขียว แต่น้ำใส  👈

       

         มาต่อกันที่บทความที่สองกันเลยคือบทความเรื่อง เที่ยวสนุก สุดสุดที่ไต้หวัน ของคุณ''โบนัส" โดยบทความนี้จะเป็นเกี่ยวกับการไปท่องเที่ยวสถานที่ในไต้หวัน พอฝ้ายได้อ่านบทความแล้วรู้สึกประทับใจรูปถ่ายในการไปเที่ยวของคุณโบนัส ถ่ายรูปสวย มีการแนะนำสถานที่ได้ค่อนข้างดี การใช้ภาษาก็โอเลยโดยเฉพาะคำภาษาอังกฤษ แต่ข้อมูลเนื้อหาในการนำเสนออาจจะน้อยไปหน่อยนึง ทำให้รู้ข้อมูลไม่ค่อยครบถ้วนเท่าไรแต่เนื้อหาก็กระชับดี ส่วนใครอยากไปเที่ยวไต้หวันก็ลองอ่านบทความเต็มๆของคุณโบนัสได้ที่ เที่ยวสนุก สุดสุดที่ไต้หวัน 👈 

        

        หว่าา มาถึงบทความคนสุดท้ายยแล้วสิ เอาใจสายกินกันหน่อยดีกว่า ฝ้ายก็ได้นำบทความเรื่อง เยาวราชพาเพลิน ของคุณ"เมย์" ถ้าหากพูดถึงเยาวราชก็คงไม่พ้นของกิน ซึ่งคุณเมย์ก็ได้นำเสนอร้านอาหารในย่านเยาวราชได้ดี มีการใช้ภาษาเป็นกันเอง  มีการเกริ่นนำบทความที่แสดงตัวตนของตัวเองออกมาได้ดี รวมถึงมีรูปภาพประกอบในแต่ละร้านมาให้ผู้อ่านน้ำลายไหลรวมถึงฝ้ายด้วยจ้า555  แต่ฝ้ายคิดว่าข้อมูลที่ให้แต่ละร้านอาจจะน้อยไปอยากให้รีวิวเจาะลึกของแต่ละร้านให้ลึกกว่านี้ อย่างไรก็ตามภาพรวมถือว่าโอเคจ้าา ใครอยากจะอ่านบทความเต็มๆของคุณเมย์ก็สามารถอ่านกันต่อได้ที่ เยาวราชพาเพลิน 👈

 

         จบไปแล้วสำหรับการวิเคราะห์ วิจารณ์บทความของทั้ง3คน เพื่อนๆมีความเห็นแบบเราหรือต่างกับเราบ้างไหม ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับทัศนคติของแต่ละคนด้วยเนาะ มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป แต่ฝ้ายว่าแต่ละคนก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการเขียนบทความอยู่แล้วเป็นตัวของตัวเองก็คงจะดีสุดแล้วแหละ ไม่มีผิดไม่มีถูกจ้าาา ส่วนบทความต่อไปของฝ้ายจะเป็นอะไรนั้นอย่าลืมติดตามกันน้า สำหรับวันนี้ฝ้ายก็ขอลาไปก่อน บายค่าาาา

 

 

มหาลัยและคณะในฝัน

เพราะความฝันนั้นคือ...

                 "ลูกพระเกี้ยว "

 

 

         สวัสดีเพื่อนๆที่น่ารักทุกคน  กลับมาพบกับ "ฝ้าย"อีกครั้ง คราวที่แล้วฝ้ายก็ได้รีวิวร้านขนมหวานให้เพื่อนๆไปตามเช็คอินกัน ได้ไปกันบ้างป่าวว มาครั้งนี้ฝ้ายก็อยากจะให้บทความนี้เป็นแนวทางให้กับคนที่อยากเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับฝ้ายหรืออาจจะที่อื่นเพื่อที่จะได้รู้ข้อมูลและจะได้เตรียมตัวถูกงั้นมาเข้าเรื่องกันเลย  แค่เห็นชื่อเรื่องเพื่อนๆก็คงน่าจะเดากันออกว่ามหาวิทยาลัยที่ฝ้ายอยากเข้านั้นก็คือออ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งฝ้ายคิดว่าน่าจะเป็นความฝันของใครหลายๆคนเหมือนกัน ที่อยากเข้าที่นี้ก็เพราะว่ามหาลัยนี้เป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย  ชอบชุดครุยของที่นี้มากรวมถึงทัศนียภาพของมหาลัยและกิจกรรมต่างๆโดยเฉพาะงานฟุตบอล คนที่นี้งานดีมากอะแกรรร   ส่วนคณะที่อยากเข้าของที่นี้คือ คณะเภสัชศาสตร์ ส่วนตัวอยากเข้าเภสัชอยู่แล้วเพราะอยากแนะนำวิธีการใช้ยาให้กับประชาชนได้ถูกต้องและคิดค้นพัฒนาตัวยาใหม่ๆ เพื่อนๆก็คงได้ฟังเหตุผลคร่าวๆกันไปแล้ว งั้นเรามาดูประวัติของรั้วจุฬากันดีกว่า ว่ามีความเป็นมายังไงรวมถึงมีอะไรที่น่าสนใจที่ทำให้ฝ้ายอยากเข้าที่นี้ ถ้าพร้อมแล้วว ลุยย

 

 

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของประเทศไทย ถือกำเนิดจากโรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาข้าราชการฝ่ายพลเรือน โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งขึ้น ณ ตึกยาวข้างประตูพิมานชัยศรีในพระบรมมหาราชวัง เมื่อ พ.ศ.2442 และเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนมหาดเล็ก เมื่อ 1 เมษายน พ.ศ. 2445 เพื่อผลิตบุคลากรให้รับราชการ ซึ่งมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากพระบรมราโชบายปฏิรูประบบบริหารราชการแผ่นดินเมื่อ พ.ศ. 2425

 

 

พระเกี้ยว เป็นสัญลักษณ์ที่ชาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยภูมิใจ สืบเนื่องจากชื่อของมหาวิทยาลัยได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้พระราชทานกำเนิดมหาวิทยาลัยนี้

 

 สีประจำมหาวิทยาลัย คือ สีชมพู

 

 ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย คือ ต้นจามจุรี

(เป็นจุดที่คนในมหาลัยบอกว่าร่มรื่นมาก )

 

 

เครื่องแบบนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นเครื่องแบบที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน นับตั้งแต่ยังเป็นโรงเรียนมหาดเล็ก โรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปัจจุบัน  (อย่างในรูปก็เป็นพี่ฟรัง นรีกุลหรือนักแสดงในบทบาทของออย ฮอร์โมน ก็เรียนที่นี้น้าา) 

 

 

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันเดียวที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ว่าพระมหากษัตริย์เป็นพระบรมราชูปถัมภกของสถาบัน และได้รับพระบรมราชานุญาตให้ใช้พระเกี้ยวประดับที่สำรดของชายครุยระดับอก (เป็นชุดที่เราอยากใส่มากกครั้งหนึ่งในชีวิตเลย)

 

พีช พชร ก็จบจากจุฬานะจ้าาา อรั้ยย

 



 

 

       และนี้ก็คืออ คณะที่ฝ้ายอยากเข้าของจุฬา  คณะเภสัชศาสตร์ นั่นเองง

 



 

ในส่วนของรับน้องเภสัช จุฬา นั้น.....ให้ภาพอธิบายเน้ออ อิอิ

    ถ้าอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเภสัชของจุฬาเราแนะนำให้ดูรายกาย ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้เลย👇
    เด็กมาหาไร EP.44 (เภสัช จุฬา)

 

      และแล้ววว ก็มาถึงเวลาที่ทุกคนคอรอย เอ้ย รอคอยย กันแล้ววว นั้นก็คืองานฟุตบอลประเพณีธรรมศาสตร์-จุฬาฯ มาดูบรรยากาศของงานและสาวสวย หนุ่มหล่อจะงานดีขนาดไหนเจ้าา

 

                                                   ขบวนพาเหรดจ้าา  

                          ดีงามมากอะแกงานนี้

 

สวยงามตามท้องเรื่อง

                                ลุคสวย ใสใส

                              ดูดีมีระดับบเฟ่ออ

 

                             ไซร้ไหนดีคะ55555555 เอ้ย เสื้ออะSize ไหนดี แหมมมม

                             แนวอปป้าก็มาาาา

                             ใจบางไปหมดล้าวววววว        

         แหน่ะ กำลังดูกันเพลินๆช่ะม่ะ แต่เพื่อนๆก็คงจะได้ดูกันไปแล้วว่าความเป็นมาของจุฬาเป็นยังไง และจุฬามีอะไรที่น่าสนใจเยอะแยะเลยที่ฝ้ายบอกไปก็แค่บางส่วนเท่านั้นน้าาา สำหรับใครที่อยากจะเข้าจุฬาก็ตั้งใจทำคะแนนดีๆเพราะคะแนนที่นี้สูงมาก แต่ก็คงไม่เกินความสามารถของพวกเราหรอกเนอะ ให้ดูสิ่งที่เราชอบในมหาลัยนั้นๆแล้วเอามาเป็นแรงผลักดันให้เราขยันตั้งใจมากขึ้น อย่างฝ้ายอยากเข้าเภสัชก็พยายามทำคะแนนดีๆถึงผลจะเป็นยังไงก็ถือว่าเราทำเต็มที่แล้ว  เพราะฉะนั้นเราจะสู้ไปด้วยกันนน5555 เป็นกำลังใจให้จ้าาา ส่วนบทความหน้าจะเป็นเรื่องอะไรนั้นอย่าลืมติดตามกันนนเน้ออออ ขอส่งท้ายด้วยหนุ่มจุฬาแก๊งค์นี้ บายย